Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 24, 2010

การใช้winzip

การใช้ Winzip อย่างง่ายที่สุด
โปรแกรม Winzip เป็นโปรแกรมสำหรับลดขนาดไฟล์ ให้มีขนาดเล็กกลง ถ้าคุณ Download ไฟล์ต่าง ๆ จากเน็ตมาจะเห็นได้ว่าไฟล์ส่วนใหญ่จะ Zip เพื่อความเร็วในการโหลด ซึ่งการใช้งานคุณต้องคลาย Zip ออกก่อนจึงจะสามารถใช้ได้ ในที่นี้นะครับผมจะแนะนำแบบง่ายที่สุดแต่ได้ผลครับ มาเริ่มกันเลยครับ

วิธีคลาย Zip
1. ให้คุณสร้างโฟลเดอร์ขึ้นมา 1 โฟลเดอร์จะตั้งชื่อว่าอะไรก็ได้แล้ว Copy ไฟล์ Zip ที่ต้องการคลายไปไว้ในนั้น
2 ให้คลิกขวาไฟล์ที่ต้องคลาย Zip แล้วเลือก Winzip > Extract to here

3. จะเห็นได้ว่ามีไฟล์ต่าง ๆ ปรากฎขึ้นมา แสดงว่าการคลายเสร็จสมบูรณ์แล้ว สามารถนำไฟล์ต่าง ๆ ไปใช้ได้ตามปกติ

การ Zip ไฟล์
หลังจากรู้วิธีคลายแล้วมาเรียนรู้การ Zip บ้าง ซึ้งก็ไม่ยากครับ มีวิธีการดังนี้
1. ให้คลิกขวาไฟล์ที่ต้องการ Zip แล้งเลือก Winzip > Add to (จะตามด้วยชื่อไฟล์ที่คุณต้องการ Zip) ในที่นี้ผมจะ Zip โฟลเดอร์ที่ชื่อว่า asp2 จึงขึ้นมาว่า Add to asp2.zip

2. เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ จะเห็นได้ว่ามีไฟล์ asp2.zip แล้ว

เห็นใหม่ครับว่าเป็นวิธีที่ง่ายจริง ๆ ลองนำไปใช้ดูนะครับ

Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 24, 2010

โปรแกรมGomplayer

ในปัจจุบันนี้ มีหลายโปรแกรมที่ใช้สำหรับดูไฟล์วีดีโอ อย่างเช่น Windows Media Player  แต่โปรแกรมที่แถมมากับ Windows อย่าง WMP ก็ยังไม่สามารถตอบสนองหรือยังไม่รองรับไฟล์วิดิโอที่ต่างนามสกุล อย่างเช่น .flv,.mkv ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และก้ยังมีโปรแกรมดูไฟล์วีดิโออีกหลายโปรแกรมที่สามารถเปิดดูไฟล์วิดิโอที่ หลากหลายนามสกุลได้ แต่ในที่นี้จะขอแนะนำโปรแกรมดูไฟล์วิดิโออีกโปรแกรมหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ โปรแกรมอื่นเลย นั่นก็คือ
โปรแกรม GOM Player  ซึ่งเจ้าโปรแกรมตัวนี้สามารถเปิดดูไฟล์วิดิโอได้หลากหลายนามสกุลมาก อย่างเช่น .flv,.mkv,.wmv  ฯลฯ  ซึ่งวิิธีการใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย เพียงแค่ตั้งค่าไฟล์วิดิโอให้เปิดในโปรแกรม GOM Player เท่านั้น แค่นี้ก็สามารถเปิดดูไฟล์วิดิโอได้แล้ว ซึ่งโปรแกรมตัวนี้สามารถรองรับนามสกุลของไฟล์วิดิโอได้เกือบทุกนามสกุึลเลย แม้แต่ไฟล์วิดิโอที่โปรแกรม Windows Media Player ไม่สามารถเปิดได้ โปรแกรม GOM Player ก็สามารถเปิดได้และเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา และที่สำคัญโปรแกรมตัวนี้มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ ขณะที่เรากำลังเ่ล่นไฟล์วิดิโออยู่นั้น ก็สามารถถ่ายรูปได้ด้วย เหมาะสำหรับทำ SS (Screen Shot) ไ้้ด้ ซึ่งเราจะได้อธิบายวิธีการติดตั้งและเปิดใช้โปรแกรม ดังต่อไปนี้


1.  คลิกที่ตัวเซทอัพ GOM Player จะปรากฎหน้าจอดังภาพ ให้คลิก Next


2.  คลิก I Agree


3.  ช่องนี้จะไม่มีรายละเอียดอะไรมาก  ให้คลิก Next ข้ามไปเลย


4.  ช่องนี้จะให้เราเลือกตำแหน่งการติดตั้งโปรแกรมในเครื่อง หลังจากเลือกตำแหน่งได้แล้วให้คลิก Next


5.  รอการติดตั้งจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์


6.  เมื่อติดตั้งเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้คลิก Finish

เมื่อติดตั้งเสร็จ เรียบร้อยแ้ล้ว ถ้าดับเบิลคลิกเข้าใช้โปรแกรมครั้งแรก จะมีหน้าต่างให้เราตั้งต่าการเล่น ดังรูปต่อไปนี้

หลัง จากเราตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ถ้าเราจะเปิดไฟล์ขึ้นมาดู ก็มีวิธีการง่ายๆ ดังนี้


ให้คลิ กที่ปุ่ม OPEN (ปุ่มแรกทางขวาล่าง)  แล้วก็เลือกไฟล์ที่ต้องการดู เสร็จแล้ว คลิก OK (ในกรณีัที่ต้องการเปิดดูหลายๆ ไฟล์ ก็ให้เปิด playlist ขึ้นมา แล้วลากไฟล์ลง playlist ไ้ด้เหมือนกัน)

สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม นี้ได้  โดยคลิกที่ลิ้งค์เืพื่อดาวน์โหลดได้เลยครับ

ตัวโปรแกรม GOM Player
http://www.mediafire.com/?dgzqjdfzoy0

ตัว เสริมโปรแกรม ต้องติดตั้งคู่กันนะครับ
http://www.mediafire.com/?oftqdnzmimy

Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 24, 2010

โปรแกรมFlashget

FlashGet (โปรแกรม ช่วยดาว์นโหลด ไฟล์ให้แรงขึ้น) : โปรแกรม ที่จะช่วยท่าน ดาวน์โหลด (Download) โปรแกรมอื่นๆ ได่ง่ายยิ่งขึ้นครับ โปรแกรมนี้ มาพร้อมกับ คุณสมบัติเด่นมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่ม สปีด ในการ D/L ข้อมูล ของท่าน เร็วขึ้น ตั้งแต่ 100% ถึง 500% เลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ ยังมี คุณสมับติเด่นอีกอันคือ การใช้งานที่ ง่ายแสนจะง่ายครับ คือมี Interface ที่คล้ายๆกับ Windows Explorer ที่มากับ Windows นะแหละครับ และ การใช้ก็จะเป็นการ Drag & Drop คับ นอกจากนี้ ที่เด่นสุดๆ เลยคือ โปรแกรมนี้ สามารถใช้ เมนูคำสั่งที่เป็น ภาษาไทย และนอกจากนี้ ยังมีภาษาอื่นๆ อีกกว่า 30 ภาษา ได้อีกด้วยครับ ซึ่งไม่มี โปรแกรมนอกโปรแกรมไหนที่สามารถทำได้อย่างนี้มาก่อนเลยครับ … ถือได้ว่า สุดยอดครับ สำหรับ คุณสมบัติอื่นๆ ที่เราไม่สามารถจะบรรยายได้หมด ก็เข้าไปดูได้ที่หน้านี้นะครับ CLICK … แล้วท่านจะรู้อะไร เกี่ยวกับ โปรแกรมนี้ขึ้นอีกเยอะครับ ….


Note : โปรแกรมนี้ ทางผู้พัฒนา โปรแกรม (Program Developer) เขาได้แจกให้ ทุกท่านได้นำไปใช้กันฟรี FREE !! นะครับผม โดยท่าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ครับผม โดยท่านสามารถที่จะติดต่อกับทาง ผู้พัฒนาโปรแกรมนี้ได้ทาง E-Mail : fg172@amazesoft.com (ภาษาอังกฤษ) นะครับผม …


English Description : Get files fast. Resume broken downloads. Organize. Do it all with FlashGet. FlashGet can split downloaded files into sections, downloading each section simultaneously, for an increase in downloading speed from 100% to 500% . This, coupled with FlashGet powerful and easy-to-use management features, helps you take control of your downloads like never before.

ลิ้งค์ดาวน์

คุณสามารถ “ดาวน์โหลด” โปรแกรมนี้ได้ โดยการคลิกลิงค์ด้านล่างนี้

www.flashget.com
down6.flashget.com
down5.flashget.com
Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 24, 2010

วิธีการใชโปรแกรมCCleaner

1. เปิดโปรแกรมโดยการดับเบิลคลิกที่ไอคอน CCleaner บนเดสก์ท็อป    

2. คลิกปุ่ม Analyze เพื่อให้โปรแกรมทำการวิเคราะห์ระบบ รอจนกว่าการทำงานเสร็จสิ้น

3. คลิกที่ปุ่ม Run Cleaner เพื่อทำการลบไฟล์ต่างๆ

Download โปรแกรม http://www.ccleaner.com

Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 24, 2010

ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ(หนู)

ประวัติ ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ(หนู)

บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ก่อตั้งขึ้น ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 สองวันก่อนหน้าที่จะร่วมมือกับกองทัพบก เพื่อดำเนินการส่งโทรทัศน์สีตามมติและนโยบายของคณะกรรมการควบคุมวิทยุและ โทรทัศน์กองทัพบก ในสมัยที่ จอมพล ประภาส จารุเสถียรดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น เริ่มทำการทดลองออกอากาศโทรทัศน์สี โดยใช้มาตรฐานการออกอากาศ CCIR 625 เส้น ในระบบ PAL เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ด้วยการ ถ่ายทอดสด การประกวดนางสาวไทย ที่จัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงานวชิราวุธานุ สรณ์ จากพระราชวังสราญรมย์ โดยใช้ชื่อว่า “สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7”

จากนั้น จึงได้เปิดสถานีออกอากาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ปีเดียวกัน ต่อมา ในปี พ.ศ. 2511 บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ได้ทำสัญญา มอบ เครื่องส่งโทรทัศน์สี กำลังออกอากาศ 500 วัตต์ ให้แก่กองทัพบก พร้อมทั้ง ทำสัญญาเช่า เพื่อดำเนินการบริหาร สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ได้ใช้ห้องส่งร่วมกับ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ชั่วคราวก่อน ในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ ก็นำไปติดตั้งในรถเมล์ จำนวน 3 คัน โดยรื้อที่นั่งออกทั้งหมด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2513 จึงได้ย้ายเข้าไปยัง อาคารที่ทำการถาวร บริเวณด้านหลัง สถานีขนส่งสาย เหนือ (หมอชิต) แห่งเก่า (ปัจจุบันคืออาคารศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส และลานจอดรถของสถานีสวนจตุจักร) และด้านข้างอาคารสำนักงานใหญ่ของบีทีเอส ในปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2521 สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียมปาลาปา ของอินโดนีเซีย เพื่อถ่ายทอดสัญญาณ จากกรุงเทพมหานคร ไปสู่ สถานีเครือข่ายของทุกภูมิภาค เป็นสถานีแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้เช่าสัญญาณดาวเทียมนานาชาติ (อินเทลแซท) ถ่ายทอดเหตุการณ์จากทั่วโลกมายังไทย

ในเวลาใกล้เคียงกัน ก็ได้ริเริ่ม การใช้รถถ่ายทอดสัญญาณดาวเทียม ใช้ย่านความถี่สูง (เคยู-แบนด์) และ รถถ่ายทอดนอกสถานที่ (โอ.บี.) ใช้ย่านความถี่ ซี-แบนด์ ทำหน้าที่เป็นสถานีแม่ข่ายชั่วคราว ถ่ายทอดสด งานประเพณีที่น่าสนใจ กีฬานัดสำคัญ และ เหตุการณ์ในท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ทำการออกอากาศเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึงเวลา 02:00 น. ในวันรุ่งขึ้น แต่อนึ่งในปี พ.ศ. 2545 สถานีได้แพร่ภาพออกอากาศทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในไม่นาน จนกระทั่งทางสถานีฯ พร้อมที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ในการที่จะลดการใช้และอนุรักษ์พลังงาน เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และปกป้องเศรษฐกิจของชาติ ทำให้ในปีเดียวกัน ทางสถานีฯต้องยกเลิกการแพร่ภาพการออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง โดยทันที และเปิดปิดสถานีฯ ในเวลากำหนดตามปกติดั่งเช่นเดิม ตลอดมา

มีข้อความอยู่บทหนึ่ง เขียนไว้ว่า

Cquote1.svg

เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล ในการอนุรักษ์ประหยัดพลังงาน ช่อง 7 สี ขอยุติการออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง และจะเสนอรายการต่างๆตามปกติตั้งแต่ค่ำคืนนี้เป็นต้นไป

Cquote2.svg

การ ออกอากาศก่อนเปิดสถานีและหลังปิดสถานี

ภาพทดสอบ ของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เมื่อ 16 กันยายน 2552

สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ออกอากาศทุกวันตั้งแต่เวลาประมาณ 4.35 น. ซึ่งเริ่มต้นด้วยรายการควอนตั้ม เทเลวิชั่น มีเนื้อหาเกี่ยวกับการโฆษณา แนะนำสินค้า ออกอากาศเป็นเวลา 30 นาที เมื่อครบ 30 นาที ทางสถานีจะเปิดเพลงบรรเลงพร้อมกับตราสัญลักษณ์ของสถานี โดยมีชื่อสถานี คือ “สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7” กำกับตามแนวโค้งอยู่ด้านล่างของตราสัญลักษณ์ เป็นเวลาประมาณ 30 วินาที หลังจากนั้น จะเปลี่ยนจากตราสัญลักษณ์ของสถานี เป็นตราสัญลักษณ์ของกองทัพบก และเปลี่ยนเป็นเพลงบรรเลงมาร์ชกองทัพบก แต่ยังคงมีชื่อสถานีกำกับตามแนวโค้งอยู่ด้านล่าง และพื้นหลังยังคงเดิม จากนั้นจะเริ่มออกอากาศรายการข่าวเช้า 7 สี ต่อด้วย เช้านี้ที่หมอชิต สำหรับรายการควอนตั้ม เทเลวิชั่น ได้ไปออกอากาศอีก 30 นาที ทุกคืน เวลาประมาณ 2.00 น. และเมื่อครบ 30 นาที ออกอากาศเป็นหน้าจอ ราตรีสวัสดิ์ เป็นเวลา 8 วินาที และออกอากาศเพลงสรรเสริญพระบารมี (เพลงบรรเลง) เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีจบ ช่อง 7 ออกอากาศเป็นหน้าจอดำ เป็นเวลา 15 วินาที และภาพทดสอบ พีเอ็ม 5544 ได้เริ่มออกอากาศ (ไม่มีเสียง) กว่าภาพจะซ่า ช่อง 7 สีในแต่ละจังหวัดลืมปิดสถานีถึงขั้นทดสอบภาพเป็นเวลานานกระทั่งเปิดสถานี ของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้

ต่อมาเวลา 4.00 น. จะมีเสียงเพลงออกอากาศบนภาพทดสอบ ซึ่งเป็นเพลงประกอบละคร เพลงลูกทุ่ง และเพลงสมัยใหม่ที่ไม่มีลิขสิทธิ์ ในบางวัน ทางสถานีเปิดเพลงบรรเลง (ดนตรี) อย่างเดี่ยว ซึ่งบรรเลงโดยการผิวปาก ซึ่งเพลงบรรเลงทั้งหมดได้นำจากประเทศสวีเดน.

บางครั้ง ช่อง 7 ออกอากาศ rerun ละคร ตั้งแต่เวลา 4.00 น. เหตุการณ์นี้นานๆ จะเกิดขึ้น. ในหนึ่งครั้งจะมีการออกอากาศละครทั้งหมด 2-4 วัน.

ในช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญอย่างเช่น การสิ้นพระชนม์สมเด็จพระพี่นางเธอกรมหลวงนราธิวาสราชครินทร์ ทำให้ทางสถานีฯ จึงยุติการออกอากาศในเวลา 23.50 น. และ 1.30 น.ซึ่ง นานๆ ทีมีครั้งหนึ่งที่ยุติในการออกอากาศเร็วก่อนกำหนด. การปิดสถานีก่อนเที่ยงคืนของช่อง 7 ได้เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2525

ในช่วงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 – 2532 ช่อง 7 สนองมาตรการประหยัดไฟของรัฐบาล โดยปิดสถานีและหยุดออกอากาศตั้งแต่เวลา 18.30 – 20.00 น. (ในช่วงเย็น)

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 – 2534 ช่อง 7 เปิดสถานีในเวลา 8.00 น. – 10.00 น. (ในภาคกลางวัน)

การเปิดสถานี

เมื่อถึงเวลา 04.35 น. สิ้นสุดเริ่มออกอากาศรายการควอนตัมเทเลวิชั่น เป็นเวลา 30 นาที จากนั้น เวลา 05.00 น. ทางสถานีจะเปิดเพลงบรรเลงพร้อมกับตราสัญลักษณ์ของสถานี โดยมีชื่อสถานี คือ “สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7” กำกับตามแนวโค้งอยู่ด้านล่างของตราสัญลักษณ์ เป็นเวลาประมาณ 30 วินาที หลังจากนั้น จะเปลี่ยนจากตราสัญลักษณ์ของสถานี เป็นตราสัญลักษณ์ของกองทัพบก และเปลี่ยนเป็นเพลงบรรเลงมาร์ชกองทัพบก แต่ยังคงมีชื่อสถานีกำกับตามแนวโค้งอยู่ด้านล่าง และพื้นหลังยังคงเดิม จากนั้นจะเริ่มออกอากาศรายการข่าวเช้า 7 สี

ตั้งแต่ พ.ศ. 2553 ในบางครั้งจะมีนาฬิกาในขั้นตอนการเปิดสถานีเวลา 05.00 และ 05.15 โดยจะมีพื้นหลังสีดำ

ปิดสถานี

เมื่อรายการสุดท้ายจบลง คือรายการควอนตั้ม เทเลวิชั่น เริ่มออกอากาศเป็นหน้าจอ ราตรีสวัสดิ์ เป็นเวลา 8 วินาที และออกอากาศเพลงสรรเสริญพระบารมี (เพลงบรรเลง) เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีจบ ช่อง 7 ออกอากาศเป็นหน้าจอดำ เป็นเวลา 5 วินาที และเริ่มภาพทดสอบ

เวลา เปิดปิดสถานี

  • ปี 2510 – 2518 (ปีที่เริ่มออกอากาศ) เปิดสถานีเวลา 16:30 น. ปิดสถานีเวลา 22:30 น.
  • ปี 2518 – 2523 เปิดสถานีเวลา 13:00 น. และปิดสถานีเวลา 23:30 น.
  • ปี 2523 – 2524 เปิดสถานีเวลา 14.00-18.30 น. และรอบค่ำเวลา 20.00-01.00 น. และเริ่มปิดสถานีช่วงเย็น เวลา 18.30 – 20.00 น. ตามมาตรการประหยัดพลังงาน ในสมัยรัฐบาล พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
  • ปี 2524 – 2529 วันจันทร์-ศุกร์ เปิดสถานีเวลา 16.00 – 18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดสถานีเวลา 08.00 – 18.30 น. และทุกวัน เวลา 20.00 – 24.00 น. แต่ยังคงปิดสถานีช่วงเย็นเหมือนเดิม
  • ปี 2529 – 2532 วันจันทร์-ศุกร์ เปิดสถานีเวลา 16.00 – 18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดสถานีเวลา 08.00 – 18.30 น. และทุกวัน เวลา 19.30 – 00.30 น. โดยไม่ปิดสถานีช่วงเย็น และได้นำเสนอละครรีรัน และนำเสนอข่าวภาคค่ำของสถานีมาออกอากาศ
  • มกราคม 2532 เปิดช่วงเวลา 18.30 – 19.30 น. ของทุกวัน เสนอรายการสำหรับเด็กและเยาวชน
  • กลางปี 2532 วันธรรมดาเปิดสถานีเวลา 14.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และการปิดสถานียังเป็นเวลาเดิม
  • ตุลาคม 2532 – ธันวาคม 2533 เปิดสถานีเวลา 09.15 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ และเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ – อาทิตย์ เนื่องจากได้เพิ่มเวลาสำหรับการรายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • มกราคม 2534 วันธรรมดาเปิดสถานีเวลาเดิม วันเสาร์-อาทิตย์เปิดสถานีเวลา 06.30 น. แต่ขยายเวลาปิดสถานีเวลา 02.00 น.ทุกวัน
  • พฤศจิกายน 2534 – 2537 เปิดสถานีเวลา 05:30 น. ปิดสถานีเวลาเดิมทุกวัน ตามนโยบายเปิดสถานี 24 ชั่วโมง ในสมัยรัฐบาล นายอานันท์ ปันยารชุน
  • ปี 2537 – 2540 เปิดสถานีเวลา 05:30 น. ปิดสถานีเวลา 02.00 น. (บางวันอาจปิดสถานีเวลา 02.15 น.)
  • ปี 2540 – 2542 เปิดสถานีเวลา 05:00 น. ปิดสถานีเวลา 02:00 น. (บางวันอาจปิดสถานีเวลา 02.30 น.-03.00 น.)
  • ปี 2542 – 2545 เปิดสถานีเวลา 05:00 น. ปิดสถานีเวลา 02:30 น.
  • ปี 2545 – 2547 ออกอากาศ 24 ชั่วโมง
  • ปี 2548 – 2550 เปิดสถานีเวลา 05:00 น. ปิดสถานีเวลา 02:30 น.
  • ปี 2550 – 2552 เปิดสถานีเวลา 04:35 น. ปิดสถานีเวลา 02:30 น.
  • ปี 2552 – ปัจจุบัน เปิดสถานีเวลา 04:35 น. ปิดสถานีเวลา 03:30 น.

หมายเหตุ…วันเสาร์บางสัปดาห์อาจปิดสถานีเวลา 02:15 น. ขึ้นอยู่กับความยาวภาพยนตร์ของบิ๊กซีนีม่าที่ออกอากาศในสัปดาห์นั้นๆ)

ภาพ ทดสอบ

  • ปี 2510 – 2531 ภาพทดสอบจอสีฟ้า ภาพทดสอบแรกของสถานีฯ
  • ปี 2531 – 2537 ภาพทดสอบ FuBK
  • ปี 2538 – ปัจจุบัน ภาพทดสอบ พีเอ็ม 5544 ภาพทดสอบของสถานีฯ ที่ใช้ในปัจจุบัน

รายการ โทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง

[แก้] รายการ ประเภทข่าว

ฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับการเปิดดำเนินงานของสถานีฯ มีบทบาทในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ทางวิทยุโทรทัศน์ ด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสารสู่ประชาชน อย่างรวดเร็ว ฉับไว และเที่ยงตรง

ปัจจุบัน รายการข่าว ของ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 นำเสนอข่าวสาร แบบ เกาะติดสถานการณ์ ตลอดทั้งวัน ทางรายการ ข่าวภาคเช้า ข่าวภาคเที่ยง ข่าวภาคค่ำ รวมถึง ข่าวเด็ด 7 สี และ เด็ดข่าวดึก ซึ่งได้ทำหน้าที่กระจก ที่สะท้อนวิถีชิวิต และสภาพปัญหา ของประชาชน ในทั่วทุกภาคของประเทศ ผ่านรายงานข่าวต่างๆ เช่น ข่าวช่วยชาวบ้าน สกู๊ปชีวิต ด้วยลำแข้ง รายงานของ นายคำรณ หว่างหวังศรี ตลอดรวมถึง สะเก็ดข่าว และ ภาพกีฬามันมันส์ ซึ่งล้วนแต่มีเอกลักษณ์ของตนเอง ทั้งยังได้รับความนิยมจากผู้ชม

ตลอดระยะเวลา เกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายข่าวของสถานีฯ ได้เก็บรักษา และรวบรวม แฟ้มข่าวในประเทศ และ แฟ้มภาพเคลื่อนไหว (วิดีโอ) ข่าวในประเทศ อันมีคุณค่า ไว้เป็นจำนวนมาก มีระบบการจัดเก็บที่รัดกุม จนมีการก่อตั้ง ศูนย์ข้อมูลทางโทรทัศน์ ของสถานีฯ ขึ้น เพื่อให้บริการ แฟ้มข่าว และ แฟ้มภาพข่าว ดังกล่าว แก่ สถานีโทรทัศน์ และ สำนักข่าวต่างประเทศ

รายการ ประเภทละคร

สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถือเป็นผู้นำของการนำเสนอรายการละครโทรทัศน์ในประเทศไทย โดยเริ่มต้นด้วยการนำเสนอละครพื้นบ้านในช่วง เช้าวันสุดสัปดาห์ จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงมาเป็น การนำบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อดัง ตลอดจนบทละครที่เขียนขึ้นใหม่ มาสร้างเป็นละคร เพื่อนำเสนอในช่วงเวลาไพร์มไทม์ 20.30 น. และช่วงเย็นประมาณ 18.30 น. ในระยะต่อมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นรายการประเภทที่มีผู้ติดตามชมมากที่สุด และสร้างรายได้แก่สถานีฯ มากที่สุดด้วย

Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 21, 2010

Google

ประวัติ

ต้น กำเนิดกูเกิล

ป้ายต้อนรับหน้าบริษัทกูเกิลที่ กูเกิลเพล็กซ์

กูเกิลเริ่มก่อตั้งเมื่อ มกราคม พ.ศ. 2539 จากโครงงานวิจัยสำหรับดุษฎีนิพนธ์ของ แลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน นักศึกษามหาวิทยาลัยปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด[5] จากสมมุติฐานของเสิร์ชเอนจินที่สามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ของเว็บไซต์ มาจัดอันดับการค้นหาที่เรียกว่าเพจแรงก์ โดยชื่อเสิร์ชเอนจินที่ตั้งมาในตอนนั้นชื่อว่า “แบ็กรับ” (BackRub) ตามความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลการลิงก์ย้อนกลับไป (back links) เพื่อวิเคราะห์ความสำคัญของแต่ละเว็บไซต์[6] โดยเว็บไซต์ที่มีเว็บไซต์อื่นลิงก์เข้ามาหามากที่สุด จะเป็นเว็บไซต์ที่มีความสำคัญสูงสุด และจะถูกจัดอันดับไว้ดีกว่า โดยทั้งคู่ได้ทดสอบเสิร์ชเอนจิน โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ของมหาวิทยาลัยสแตนพอร์ดในชื่อโดเมนว่า google.stanford.edu[7] และต่อมาได้จดทะเบียนบริษัทกูเกิล (Google Inc.) ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2541 โดยใช้โรงจอดรถของเพื่อนที่เมืองเมนโรพาร์กเป็น สำนักงาน[1] โดยในขณะนั้นมีพนักงาน 4 คนซึ่งรวมบรินและเพจ และชื่อโดเมน google.com ได้ถูกจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กันยายน ในขณะเดียวกันทั้งคู่ได้ลาพักการเรียน และใช้เวลาในการพัฒนาหาเงินทุนพัฒนาจากครอบครัว เพื่อนฝูง และนักลงทุน เป็นจำนวนเงินกว่า 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเช็กเงินจาก แอนดี เบกโทลไชม์ ผู้ก่อตั้งซันไมโครซิสเต็มส์[5]

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2542 บริษัทได้ย้ายไปยังเมืองแพโลอัลโทที่ตั้งของ บริษัทคอมพิวเตอร์หลายแห่ง ซึ่งต่อมากูเกิลได้ย้ายบริษัทอีกครั้งไปยังเมืองเมาน์เทนวิว ไปยังสำนักงานใหม่ในชื่อเล่นว่ากูเกิลเพล็กซ์ ซึ่งในปี 2543 กูเกิลได้เปิดธุรกิจในส่วนโฆษณาในชื่อ แอดเวิรดส์ และ แอดเซนส์ โดยเป็นการโฆษณาผ่านคำค้นหา ซึ่งทำให้ข้อความโฆษณาตรงกับความต้องการของผู้ค้นหาเนื้อหาในเว็บไซต์ และสองส่วนนี้กลายมาเป็นธุรกิจหลักของกูเกิลร่วมกับตัวเสิร์ชเอนจิน

เดือนพฤษภาคม 2543 กูเกิลได้มีผู้ใช้งานค้นหาคำมากกว่า 18 ล้านคำต่อวัน ซึ่งกลายมาเป็นเซิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของโลก และในเดือนมีนาคม 2544 เอริก ชมิดต์ อดีตผู้บริหารบริษัทโนเวลล์ และผู้บริหารระดับสูงของซันไมโครซิสเต็มส์ได้เข้ามาร่วมงานกับกูเกิลใน ตำแหน่งประธานบริหาร

จัด ตั้งบริษัทมหาชน

ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ได้เปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน โดยมีจำนวนหุ้นทั้งหมด 19,605,052 หุ้นที่ราคา 85 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น[8] โดย 14,142,135 หุ้น (อ้างค่าทางคณิตศาสตร์ √2 ≈ 1.4142135) ได้มีการเปิดขายแก่ประชาชนโดยกูเกิล และ 5,462,917 โดยผู้ถือหุ้นขาย หุ้นของกูเกิลในช่วงขายหุ้นครั้งแรกนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงขึ้นมากกว่า 200% ในช่วงปิดตลาดหุ้นของวันแรกที่ได้ประกาศ (เปรีบเทียบกับ ไป่ตู้ เสิร์ชเอนจินของประเทศจีน มูลค่าเพิ่มขึ้น 354% ในช่วงปิดตลาดวันแรก วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2548) และในวันที่ 31 ตุลาคม 2550 หุ้นกูเกิลได้ขึ้นไปสูงถึงราคา 700 เหรียญสหรัฐ

กูเกิลอยู่ในตลาดหุ้นแนสแด็ก ในชื่อสัญลักษณ์ GOOG และในตลาดหุ้นลอนดอนใน สัญลักษณ์ GGEA

การ ซื้อกิจการ

ตั้งแต่ปี 2544 กูเกิลได้เริ่มมีการซื้อบริษัทที่มีการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ เข้ามา ตัวอย่างบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่มีการซื้อได้แก่ บล็อกเกอร์พัฒนาโดยไพราแล็บส์แพลตฟอร์ มสำหรับให้บริการเขียนบล็อก ปีกาซาที่พัฒนาโดยไอเดียแล็บซอฟต์แวร์ สำหรับดูไฟล์ภาพและวิดีโอ คีย์โฮลพัฒนาโดยบริษัท คีย์โฮลซอฟต์แวร์สำหรับดูภาพถ่ายผ่านดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิลเอิร์ธ เออร์ชินเว็บแอปพลิเคชัน ในการวิเคราะห์สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นแอนะลิติกส์ ไรต์รีเว็บแอปพลิเคชัน สำหรับสร้างเอกสารสำนักงานออนไลน์ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของด็อกส์ สเก็ตช์อัปพัฒนาโดยแอตแลสต์ซอฟต์แวร์สำหรับ วาดภาพสามมิติ ยูทูบเว็บไซต์ให้บริการแชร์วิดีโอออนไลน์ จอตสปอตเว็บไซต์สำหรับ สร้างเว็บไซต์แนววิกิปัจจุบันใช้ชื่อไซตส์ ดับเบิลคลิกบริษัทให้ บริการโฆษณาออนไลน์ ไจกุเครือข่ายสังคมออนไลน์

ความ ร่วมมือ

ตั้งแต่ปี 2548 กูเกิลได้เริ่มมีการร่วมมือกับบริษัทอื่นและหน่วยงานรัฐบาลในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์มากขึ้น โดยกูเกิลได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยนาซ่า เอมส์ ในด้านการวิจัยระบบจัดการข้อมูล เทคโนโลยีนาโน และการสำรวจอวกาศ กูเกิลยังได้จับมือกับซันไมโครซิสเตมส์โดยได้ แบ่งข้อมูลเพื่อใช้ในการวิจัย[9] กูเกิลได้ร่วมมือกับเอโอแอลของไทม์วอร์เนอร์ในการ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบค้นหาวิดีโอออนไลน์ นอกจากนี้ทางบริษัทได้มีการลงทุนในส่วนของรหัสโดเมนบสุด .mobi ร่วมมือกับหลายบริษัทได้แก่ ไมโครซอฟท์ โนเกีย อีริกสัน[10]

โครงการ รณรงค์

กูเกิล ร่วมรณรงค์กิจกรรมการปิดไฟ กับโครงการเอิร์ธ อาวเออร์ (Earth Hour) ของกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund : WWF) ด้วยการปรับหน้าเว็บเพจเป็นสีดำพร้อมข้อความว่า “เราปิดไฟแล้ว ต่อไปตาคุณ” (We’ve turned the lights out. Now it’s your turn.) ในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2551[11]

“Google”

ชื่อ “Google” มาจากคำว่า “googol” ซึ่งหมายถึงจำนวนทางคณิตศาสตร์ที่หมายถึงเลข 1 แล้วตามด้วยเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว หรือ 10100 เพื่อเป็นการแสดงถึงเป้าหมายของบริษัทที่จะจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล อีกกระแสหนึ่งบอกว่าชื่อ Google มาจากความผิดพลาดในการจดโดเมนเนมในช่วงก่อตั้ง

ในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 กูเกิลชนะความในศาล ในคดีที่มีบริษัทอื่นตั้งชื่อใกล้เคียง ได้แก่ googkle.com ghoogle.com และ gooigle.com เพื่อเรียกให้คนอื่นเข้าเว็บไซต์ของตน ทำให้เกิดความเสียหายกับชื่อเสียงของกูเกิล

ผลิตภัณฑ์ ของกูเกิล

ซอฟต์แวร์ เดสก์ทอป

ซอฟต์แวร์ของกูเกิล จะเป็นซอฟต์แวร์ให้ดาวน์โหลดใช้งานฟรี และทำงานผ่านระบบของกูเกิล

กูเกิล ทอล์ก
ทอล์ก (Google Talk) ซอฟต์แวร์เมสเซนเจอร์และวีโอไอพี
กูเกิล เอิร์ธ
เอิร์ธ (Google Earth) ซอฟต์แวร์ดูภาพถ่ายผ่านดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศ
ปีกาซา
ปีกาซา (Picasa) ซอฟต์แวร์สำหรับดูภาพภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้งานคู่กับเว็บไซต์ปีกาซา
กูเกิล แพ็ก
แพ็ก (Google Pack) เป็นชุดซอฟต์แวร์พร้อมดาวน์โหลด ประกอบด้วย โปรแกรมของกูเกิลเองได้แก่ เดสก์ท็อป ปีกาซา ทูลบาร์ โฟโต้สกรีนเซฟเวอร์ เอิร์ธ ทอร์ก วิดีโอเพลย์เยอร์ และโปรแกรมอื่นรวมถึง ไฟร์ฟอกซ์ สตาร์ออฟฟิศ อะโดบี รีดเดอร์ สไกป์
กูเกิล โครม
โครม (Google Chrome) ซอฟต์แวร์เบราว์เซอร์
สเก็ตช์อัป
สเก็ตช์อัป (SketchUp) ซอฟต์แวร์สำหรับวาดภาพสเก็ตช์ และภาพ 3 มิติ
กูเกิล แมพ
แมพ (Google Map) ซอฟแวร์สำหรับค้นหาแผนที่บนโลก
Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 21, 2010

วันhalloween

วันฮาโลวีน

บรรยากาศวันฮาโลวีนที่ผู้คนจะแต่งแฟนซีเป็นผี

วันฮาโลวีน (อังกฤษ: Halloween) เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ประเทศทางตะวันตก เด็กๆ จะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง มีการประดับประดาแสงไฟ และที่สำคัญคือแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ เรียกว่า แจ๊ก-โอ’-แลนเทิร์น (jack-o’-lantern)

การฉลองวันฮาโลวีนนิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา และยังมีในออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ด้วย รวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนาน

ประวัติ

วันที่ 31 ต.ค. เป็นวันที่ชาว เคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ต.ค. นี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิง สู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป

โคมรูปฟักทอง แจ๊ก-โอ’-แลนเทิร์น

บางตำนานยังเล่าถึงขนาดว่า มีการเผา “คนที่คิดว่าถูกผีร้ายสิง” เป็นการเชือดไก่ให้ผีกลัวอีกต่างหาก แต่นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ที่ความคิดเรื่องผีสางยังฝังรากลึกในจิตใจมนุษย์ ต่อมาในศตวรรษแรกแห่งคริสตกาล ชาวโรมันรับประเพณีฮาโลวีนมาจากชาวเคลต์แต่ได้ตัดการเผาร่างคนที่ถูกผี สิงออก เปลี่ยนเป็นการเผาหุ่นแทน กาลเวลาผ่านไป ความเชื่อเรื่องผีจะสิงสูร่างมนุษย์เสื่อมถอยลงตามลำดับ ฮาโลวีนกลายเป็นเพียงพิธีการ การแต่งตัวเป็นผี แม่มด สัตว์ประหลาดตามแต่จะสร้างสรรค์กันไป ประเพณีฮาโลวีนเดินทางมาถึงอเมริกาในทศวรรษที่ 1840 โดยชาวไอริชที่อพยพมายังอเมริกา สำหรับประเพณี ทริกออร์ทรีต (Trick or Treat แปลว่า หลอกหรือเลี้ยง) นั้น เริ่มขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยชาวยุโรป ซึ่งถือว่า วันที่ 2 พ.ย. เป็นวัน ‘All Souls’ พวกเขาจะเดินร้องขอ ‘ขนมสำหรับวิญญาณ’ (soul cake) จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยเชื่อว่า ยิ่งให้ขนมเค้กมากเท่าไร วิญญาณของญาติผู้บริจาคก็ได้รับผลบุญ ทำให้มีโอกาสขึ้นสวรรค์ได้มากเท่านั้น

การเล่น trick or treat ตามบ้านคน

ส่วนตำนานที่เกี่ยวกับฟักทองนั้น เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช ที่กล่าวถึง แจ๊คจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา วันหนึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้ และเขียนกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ ‘ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก’ แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คตายลง เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันปฏิเสธที่จะลงนรก ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อเอาไว้ปัดเป่าความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอนิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดเทอนิพ และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง ‘การหยุดยั้งความชั่ว’ Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน หัวผักกาดจึงกลายเป็นฟักทองด้วยเหตุผลฉะนี้

ประเพณีทริกออร์ทรีต ในสหรัฐอเมริกาคือการละเล่นอย่างหนึ่งที่เด็กๆ เฝ้ารอคอย ในวันฮาโลวีนตามบ้านเรือนจะตกแต่งด้วยโคมไฟฟักทองและตุ๊กตาหุ่นฟางที่เป็น ส่วนหนึ่งของเทศกาล ประเพณีเก็บเกี่ยว (Harvest) ในช่วงเดียวกันนั้น แต่ละบ้านจะเตรียมขนมหวานที่ทำเป็นรูปเม็ดข้าวโพดสีขาวเหลืองส้มในเม็ดเดียว กัน เรียกว่า Corn Candy และขนมอื่นๆไว้เตรียมคอยท่า ส่วนเด็กๆ ในละแวกบ้านก็จะแต่งตัวแฟนซีเป็นภูต ผีมาเคาะตามประตูบ้าน โดยเน้นบ้านที่มีโคมไฟฟักทองประดับ (เพราะมีความหมายโดยนัยว่าต้อนรับพวกเขา) พร้อมกับถามว่า “Trick or treat?” เจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะตอบ treat ด้วยการยอมแพ้ มอบขนมหวานให้ภูตผี(เด็ก)เหล่านั้น ราวกับว่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน หรือเลือกตอบ trick เพื่อท้าทายให้ภูตผีเหล่านั้นอาละวาด ซึ่งก็อาจเป็นอะไรได้ ตั้งแต่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอน ไปจนถึงขั้นทำลายข้าวของเล็กๆ น้อยๆ แล้วอาจจบลงด้วยการ treat เด็กๆ ด้วยขนมในที่สุด

Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 5, 2010

โปรแกรมดาวน์โหลดคลิปจากyoutube

โปรแกรมดาวโหลดคลิปจาก Youtube [Youtube Downloader] สามารถดาวโหลดหนัง คลิป Video

โปรแกรมดาวโหลดคลิปจาก Youtube [Youtube Downloader]

วิธี ใช้โปรแกรมดาวโหลดคลิปจาก Youtube [Youtube Downloader]
เอา URL ของคลิปไปใส่ในโปรแกรมและเลือกนามสกุลไฟล์ที่จะโหลดออกมาแล้วก็กดดาวโหลดได้ เลยครับ

ลิ้งดาวโหลดโปรแกรม Youtube Downloader

http://www.anonym.to/?http://www.4shared.com/file/202920298/ecde7c02/YouTubeDownloaderSetup253b_by_.html

พาส เวิร์ดในการแยกไฟล์: sayyes.ws

Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 5, 2010

555

ต้องการเพลงใหม่ๆ ใช่มั้ย คลิกที่นี่

Posted by: mozillafiredog | กุมภาพันธ์ 4, 2010

อาหารขยะ(jung food)

อาหารทานเล่น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อาหารทานเล่น (snack food หรือ snack) ในสายตาของชาวตะวันตกคือประเภทของอาหารที่ไม่ได้บริโภคเป็นอาหารหลักในแต่ละวัน อาหารทานเล่นมีหน้าที่เพียงแต่บรรเทาความหิวได้ชั่วคราวเท่านั้น ให้พลังงานแก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วหรือเป็นสิ่งที่ทานเพื่อความสุขเท่า นั้น

อาหารทานเล่นถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศและมีหน้าตาน่ารับประทานกว่า อาหารตามธรรมชาติทั่วไป มักมีส่วนประกอบของสารให้ความหวาน สารกันบูดในจำนวนมาก รวมไปถึงส่วนผสมเย้ายวนผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นชอคโกแล็ต ถั่วพีนัทและสารปรุงแต่งรสชาติ (เช่นรสชาติของมันฝรั่งทอดกรอบ)

อาหารที่ผลิตขึ้นเพื่อจุดประสงค์นี้ในขั้นต้นจะถูกมองว่าเป็นอาหารขยะ (junk food) เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สุขภาพ   ในแต่ละปี อุตสาหกรรมอาหารว่างในบางประเภทเช่นสหรัฐอเมริกาทำรายได้หนึ่งร้อยล้าน ดอลลาร์ ตลาดของอาหารจำพวกนี้กว้าง หลายบริษัทต้องการเป็นหุ้นส่วนของตลาดอาหารทานเล่นนี้ ผลที่ตามมาก้คือการจัดรายการที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าจำพวกนี้ โฆษณาของอาหารกินเล่นมีมากกว่าโฆษณาของอาหารปกติ (เช่นผลไม้ ผัก เนื้อหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม) และโฆษณาในโทรทัศน์ส่วนใหญ่จะมุ่งขายอาหารประเภทนี้  หลังจากที่ความตระหนักถึงคุณค่าทางอาหาร อาหารที่รับประทานเข้าไป การลดหรือคุมน้ำหนัก และสุขภาพเริ่มมีมากขึ้น หลายคนจึงเริ่มหันมาบริโภคเพื่อสุขภาพ และเลือกอาหารทานเล่นที่มีเป็นของธรรมชาติเช่นผลไม้ (สดหรืออบแห้ง) ผัก (แท่งแครอต) ถั่วและธัญพืช

ตัวอย่าง รายการอาหารทานเล่น มัน ฝรั่งทอดกรอบ

อาหารทานเล่นยอดนิยม มันฝรั่งทอด

  1. ชีสเคิร์ล
  2. คอมโบ
  3. เพรตเซล
  4. มันฝรั่งทอดกรอบ
  5. ตอร์ตียาชิป
  6. แคนดี้บาร์

อาหาร ทานเล่นประเภทอื่น

  1. บีฟเจอร์กี
  2. แครกเกอร์
  3. คุกกี้
  4. บิสกิต
  5. โดนัท
  6. เฟรนช์ฟรายส์
  7. ไอศกรีม
  8. ถั่ว
  9. หอมใหญ่ทอด
  10. ข้าวโพดคั่ว

Older Posts »

หมวดหมู่